จุดท่องเที่ยว โปรแกรม 1

  1.    บ้านอาจ้อ คำว่า ‘อาจ้อ’ หมายถึง ทวด โดยที่แบบแปลนบ้านทั้งหลัง คักลอกมาจากปีนัง ด้วยอิทธิพลของศิลปะยุคอาร์ตเดโค (Art Deco) ที่มีจุดเด่นคือลักษณะโค้งมนปนเหลี่ยม ก่อนมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงอ่อนจากฝรั่งเศส ปูพื้นด้วยกระเบื้องอิตาเลียนสีขาวสลับเขียว ตบท้ายด้วยกระเบื้องห้องน้ำที่สลักข้อความว่า “ทำในอังกฤษ” เดิมเป็นบ้านโบราณของคหบดีเก่าเมืองภูเก็ต ทายาทรุ่น 4 ได้พลิกฟื้นปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์, ร้านอาหาร, และที่พัก อายุเก่าแก่เกือบ 90 ปี


2.    จุดชมวิวกังหันลม ตั้งอยู่บนเนินเขาระหว่างหาดยะนุ้ยและหาดในหาน ในบริเวณที่มีการผลิตกระแสไฟ้ฟ้าจากกังหันลม สามารถมองเห็นวิวทะเลได้กว้างไกลสุดตา วิวฉากหน้าที่เต็มไปด้วยดอกหญ้าพริ้วไหว และยังได้เห็นกังหันลมที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ ในช่วงกลางวันสามารถมองเห็นทะเลสีฟ้าคราม และเกาะที่ทอดยาวจากฝั่งไปยังทะเล เรือยอร์ชที่เรียงรายกลางทะเล กลายเป็นองค์ประกอบที่ลงตัว


3.    แหลมพรหมเทพ จุดชมดวงอาทิตย์ตกที่อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ต มีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดตัวสู่ท้องทะเล รอบข้างแวดล้อมด้วยต้นตาลที่ขึ้นแทรกอยู่เรียงราย ต้นหญ้าที่พัดพลิ้ว โดยด้านขวาเป็นหาดในหานและเกาะมัน ส่วนด้านซ้ายจะมองเห็นหาดในยะซึ่งเป็นหาดเล็กๆ โดย ทั่วไปนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเที่ยวหรือพักที่หาดใด พอช่วงใกล้เย็นพากันมาชมดวงอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ


4.    วัดฉลอง วัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต นักท่องเที่ยวมาแวะนมัสการ หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง เพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเอง เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์, กิตติศัพท์ในการรักษาโรค, และเมตตาธรรมที่สูงส่งของหลวงพ่อ ทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก แม้ว่าหลวงพ่อแช่มได้มรณภาพมานานนับ 100 ปีมาแล้วก็ตาม ชื่อเสียงเกียรติคุณ และบารมีของท่าน ก็อยู่ในความทรงจำของผู้คนสืบมา


5.    พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือ พระใหญ่เขานาคเกิด เลยจากวัดฉลองไปไม่ไกล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ต ลักษณะเด่นของพระใหญ่ ได้แก่ พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่เห็นได้รอบเกาะภูเก็ต นักท่องเที่ยวมักไปกราบไหว้ เคารพสักการะ และชมทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะภูเก็ตจากมุมสูง


6.    จุดชมวิวเขา 3 อ่าว อีกหนึ่งจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อของภูเก็ต สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งทั้ง 3 อ่าว อันได้แก่ อ่าวกะตะน้อย, อ่าวกะตะ, และอ่าวกะรน ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก จนมักมีคนพูดกันว่า หากใครมาภูเก็ตแล้ว ไม่ได้มาถ่ายภาพที่จุดชมวิวแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงภูเก็ต 


7.    หาดป่าตอง เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม, ร้านอาหาร, ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ ฯลฯ ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร ป่าตองจึงเป็นหาดที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด หลังสถานการณ์โควิด-19 หาดป่าตอง กลายเป็นชายหาดที่สวย, สงบ, ทรายขาว, น้ำทะเลสีฟ้า, และมีการตกแต่งริมหาดเก๋ๆ ให้ได้ถ่ายรูป


8.    พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ เป็นสถานที่แสดงประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่ของอำเภอกะทู้ และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญแก่คนรุ่นหลัง โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน กล่าว คือ ภายนอกอาคารประกอบด้วยเหมืองแล่น, เหมืองรู, เหมืองหาบ, เหมืองฉีด, เหมืองรูขุด, ส่วนภายในอาคาร “อั้งม่อเหลานายหัวเหมือง” จัดแสดงประวัติความเป็นมาของการทำเหมืองแร่ดีบุกและวิถีชีวิตของชาวเหมือง


9.    เขารัง เป็นย่านเงียบสงบที่มีบรรยากาศแสนร่มรื่น โดยตั้งอยู่บนยอดเขาที่มองออกไปเห็นทัศนียภาพเส้นขอบฟ้าของตัวเมืองภูเก็ตยาวสุดสายตา ทั้งยังมีเนินเขาเขียวขจีรอบๆ จุดชมวิวหลัก นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสวนสุขภาพสำหรับออกกำลังกาย และสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ตลอดจนร้านอาหาร สามารถขึ้นมาได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืนซึ่งมีแสงไฟระยิบระยับสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง


10.     สะพานหิน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายในตัวเมืองภูเก็ต มีลักษณะเป็นชายหาดอยู่สุดถนนภูเก็ต ซึ่งยื่นลงไปในทะเลเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์หลัก 60 ปี (วงเวียนหอย) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 เพื่อเป็นที่ระลึกแก่กัปตันเอ็ดเวิร์ด โธมัส ไมล์ ชาวออสเตรเลียผู้นำเรือขุดแร่ลำแรกมาใช้ขุดแร่ดีบุกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2452 


11.    จุดชมวิวเขาขาด เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเก็ต ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวมะขาม และอยู่ไม่ไกลจากแหลมพันวา เขาขาดถือเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบรอบทิศ 360º จากจุดนี้ นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลอันดามัน และแนวเขียวของภูเขาภายในเกาะได้อย่างเต็มตา บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ ไม่แออัด เหมาะสำหรับผู้รักการถ่ายภาพและธรรมชาติ
12.    หอชมวิวเขาขาด  ภายในพื้นที่ของจุดชมวิวนี้ มีหอคอยหลายชั้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไปชมวิวมุมสูง โดยสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้แบบ 360º หอคอยตั้งอยู่เหนือยอดไม้ ทำให้มองเห็นวิวโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง แม้บันไดจะค่อนข้างชัน แต่เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า ผู้ที่มีปัญหาในการเดิน ยังมีทางลาดทางด้านขวาให้ใช้ได้อย่างสะดวก 


13.    บ้านชินประชา สร้างขึ้นช่วงปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ตามแบบ Sino-European หลังแรกของจังหวัดภูเก็ต ที่เรียกว่า “อั้งม่อเหลา” ลักษณะโดดเด่น คือ เป็นบ้าน 2 ชั้น ประตูบ้านมีอักษรจีนลงรักปิดทอง พื้นกระเบื้องจากอิตาลี เครื่องเรือนส่วนใหญ่เป็นไม้ฝังมุกนำมาจากเมืองจีน ภายในบ้านจัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของภูเก็ตผ่านข้าวของที่ใช้ในชีวิตของผู้คนชาวภูเก็ต ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา 


14.    ย่านเมืองเก่า ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยหนึ่งในรอยอดีตอันรุ่งเรือง คือย่านเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารสไตล์ Sino-Portuguese ตลอดสองฝั่งถนน จนเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ตึกเก่าเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วตัวเมือง สามารถเดินชมถ่ายภาพได้ นอกจากนี้ยังมี Street Art สวยๆ ให้เดินถ่ายรูปเล่นกัน ที่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้คือ ถนนดีบุก, ถนนพังงา, และถนนถลาง


15.    สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี พร้อมลานมังกรทะเลสีทอง อยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพราะการเดินทางสะดวก ยิ่งเมื่อมีการจัดเทศกาลในยามค่ำคืนนั้น ได้สร้างสีสันและความสนุกสนานมากมาย เชื่อกันว่ามังกรเป็นสัตว์มงคลที่จะช่วยปกป้องรักษาชาวภูเก็ตและผู้มาเยือน


16.    เรือ Cruise ขนาดใหญ่ สำหรับทัวร์เกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล ที่นั่งหลากหลายให้เลือกเดินทางได้ทุกเพศทุกวัย รวมโปรแกรมเล่นน้ำ, ดำน้ำ, ดูปลาดูปะการังที่หาดลิง ถ่ายภาพวิวสวยๆ ของอ่าวมาหยา, อ่าวปิเละ, โละซามะ, และถ้ำรังนกไวกิ้งส์ กินอิ่มมื้อเที่ยงด้วยอาหารบุฟเฟต์บนเกาะ เสร็จแล้วยังมีเวลาเหลือให้พักผ่อน, เดินเล่นบนชายหาด, เลือกซื้อของฝาก หรือนั่งจิบเครื่องดื่มในร้านน่ารักๆ สบายๆ ที่อ่าวต้นไทร


17.     พิพิธภัณฑ์เบญญารัญ เป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ประกอบด้วยอาคารที่เสร็จสมบูรณ์แล้วนับสิบหลัง มีส่วนแสดงสถานที่โบราณต่างๆ เช่น เคาน์เตอร์โรงรับจำนำ, เหรียญโบราณ, และธนบัตรรุ่นต่างๆ, สิ่งของใต้ทะเล, โทรทัศน์โบราณ, โอ่งโบราณ, โรงภาพยนตร์โบราณ, นานาสุราที่ได้เก็บสะสมมา, กลุ่มเครื่องมือ-เครื่องใช้, เครื่องยาแผนโบราณกว่า 130 ชนิด พร้อมด้วยอุปกรณ์ 4 เหล่าทัพ รวมถึงรันเวย์เครื่องบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเวียดนาม มีรูปแบบเรือขุดแร่โบราณ ฯลฯ


18.    จุดชมวิวเสม็ดนางชี เป็นสถานเที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากของพังงา ที่คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวชมดวงอาทิตย์ขึ้น ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลย สามารถมองเห็นทั้งวิวทิวทัศน์ของเกาะแก่งต่างๆ พร้อมภูเขาหินปูนของอ่าวพังงา โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่แสงอาทิตย์ส่องเป็นประกายแดดออกมา
19.    ป่าชายเลนเขาช้างหมอบ จากความร่วมมือกันของชุมชนกับอุทยานแห่งชาติ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติพร้อมกับสนับสนุนให้เกิดประโยชน์กับชุมชน นักท่องเที่ยวสามารถเดินสบายๆ ภายใต้บรรยากาศอันร่มรื่นของป่าชายเลน ตลอดความยาวประมาณ 800 เมตร บนทางเดินไม้ (สะพานชมป่าพรุ) อันสวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติ มีจุดชมวิวให้ทุกท่านได้สัมผัสกับความสวยงามของป่าชายเลนสองฝากฝั่งคลองบ้านอ่าวน้ำ
20.    น้ำตกห้วยโต้ เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในอุทยานเขาพนมเบญจา และอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกระบี่มากนัก ต้นกำเนิดนั้นจะมาจากเทือกเขาพนมเบญจา มีด้วยกัน 5 ชั้น คือ วังสามหาบ, วังจงลอย, วังดอยปรง, วังเทวดา, และ วังโตนพริ้ว น้ำตกห้วยโต้ จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี และไหลค่อนข้างแรงในหน้าฝน โดยเฉพาะบริเวณหน้าผา


21.    น้ำพุร้อนเค็ม คลองท่อม มีบ่อน้ำพุร้อนเค็ม อยู่ในบริเวณเขตป่าชายเลนคลองบางผึ้ง ประกอบไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนเค็มที่เรียงรายเล็กใหญ่ถัดกันไปถึง 14 บ่อ และแต่ละบ่อนั้นสามารถวัดระดับความเค็มได้ปานกลาง อุณหภูมิของน้ำในบ่อประมาณ 40 – 47 ºC โดยที่อุณหภูมิของน้ำในบ่อไม่ร้อนมากจนเกินไป และน้ำมีลักษณะใสสะอาด สะท้อนกับท้องฟ้าเป็นสีมรกต


22.    สระมรกต เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ น้ำมีสีเขียวมรกต มาจากธารน้ำอุ่น และเป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิประมาณ 30 – 50 ºC จึงสามารถลงเล่นน้ำได้ ที่สระมรกตนั้นมีน้ำที่มีสีเขียวก็เพราะแบคทีเรีย และสาหร่ายในน้ำจะทำปฏิกิริยากัน จนทำให้น้ำมีสีต่างๆ แตกต่างกัน ภายในมีสะพานไม้ให้เดินเล่น เป็นเส้นทางเดินธรรมชาติ และเป็นที่อยู่ของนกนานาชนิดอีกด้วย


23.    วัดถ้ำเสือ เป็นวัดสวยอีกแห่งหนึ่งของกระบี่ ที่มีความสงบเงียบ และตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีภูเขา, ถ้ำหินงอก-หินย้อย, และต้นไม้พันปีโอบล้อม อย่างร่มรื่น นอกจากวัดจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สำหรับสายบุญแล้ว ที่นี่ยังเป็นอีกจุดชมทะเลหมอกสวยๆ ในกระบี่ด้วยเช่นกัน โดยมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ประมาณ 600 เมตร แต่ต้องเดินขึ้นบันได 1,260 ขั้นเพื่อไปถึงจุดชมวิว


24.    สุสานหอย 75 ล้านปี ตั้งอยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืด ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกันโดยมีน้ำประสารธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนท์ และหินดินดาน จากหลักฐานด้านธรณีวิทยาพบว่า อายุของสุสานหอยประมาณ 40 – 200 ล้านปี มีทั้งหมด 3 จุด ซึ่งอยู่ห่างจากกัน ประมาณ 1 กิโลเมตร


25.    เขาขนาบน้ำ ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าตัวเมืองกระบี่ ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาหินปูน 2 ลูกสูงประมาณ 100 เมตร ตั้งขนาบแม่น้ำกระบี่ นอกจากนี้ ยังมีหอพิพิธภัณฑ์และศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้าน ที่จัดนิทรรศการแสดงเครื่องใช้สมัยโบราณให้ชม หรือจะเพลิดเพลินไปกับการประดิษฐ์เรือหัวโทงจำลอง, ทอผ้าฝ้ายธรรมชาติ, และเรียนรู้การเลี้ยงปลาในกระชัง