จุดท่องเที่ยว โปรแกรม 2
1. วัดชลธาราสิงเห วัดเก่าแก่คู่เมืองนราธิวาส มีอายุเกือบ 300 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไทยโบราณและลวดลายไม้แกะสลักอย่างประณีต เป็นวัดแรกในภาคใต้ที่ได้รับพระราชทานสมญานามว่า “วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย” มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา ภายในวัดยังมีพระอุโบสถไม้โบราณที่ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก และเป็นสถานที่ที่ชาวท้องถิ่นให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม
2. สะพานคอย 100 ปี สะพานไม้เก่าแก่ในอำเภอตากใบ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะยามเช้าและเย็นที่มีหมอกลอยเหนือน้ำ ทำให้บรรยากาศชวนเพ้อฝัน และสงบงามมาก สะพานแห่งนี้ยังสะท้อนวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่ริมคลอง และเป็นเครื่องเตือนใจถึงความงามของอดีตที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและจุดพักผ่อนใกล้เคียงให้ได้แวะชมวิวแบบสบายๆ
3. อ่าวมะนาว แหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลที่เงียบสงบในจังหวัดนราธิวาส เหมาะสำหรับการพักผ่อน, เล่นน้ำ, หรือเดินเล่นริมชายหาด บริเวณอ่าวยังมีร้านอาหารทะเลสดอร่อย และสามารถชมดวงอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยสดงดงาม ทะเลที่นี่ใสสะอาดและมีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรับประทานอาหารใต้ร่มไม้ หรือเล่นกิจกรรมทางน้ำเบาๆ ได้อีกด้วย จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะทั้งสำหรับครอบครัว
4. เขื่อนบางลาง เขื่อนขนาดเล็กของจังหวัดยะลา รายล้อมด้วยป่าเขาอันเขียวขจี เป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำปัตตานี นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมธรรมชาติรอบเขื่อน, พักรีสอร์ตริมน้ำ, และเพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี บรรยากาศรอบเขื่อนสงบเงียบ เหมาะแก่การทำกิจกรรมเชิงนิเวศ เช่น เดินป่าศึกษาธรรมชาติ และดูนกในช่วงเช้า นอกจากนี้ยังสามารถแวะชมชุมชนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีวิถีชีวิตผูกพันกับธรรมชาติอย่างน่าสนใจ
5. สวนหมื่นบุปผา สวนดอกไม้และพืชเมืองหนาวในอำเภอเบตง จัดแต่งอย่างสวยงามตามฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูหนาวที่ดอกไม้จะบานสะพรั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น, ถ่ายรูป, หรือพักผ่อนท่ามกลางสีสันของธรรมชาติ ภายในสวนยังมีโซนจัดแสดงไม้ดอกหายากและพืชสมุนไพรพื้นบ้าน รวมถึงมีจุดชมวิวมุมสูงที่สามารถมองเห็นทิวเขาโดยรอบของเบตงได้อย่างชัดเจน เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักถ่ายภาพและผู้ที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริง
6. บ่อน้ำพุร้อนเบตง แหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดในภาคใต้ มีบ่อน้ำร้อนหลายบ่อให้แช่เท้า หรือแช่ตัวเพื่อสุขภาพ โดยมีอุณหภูมิประมาณ 60 – 70ºC ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องอาบน้ำร้อนส่วนตัว, ร้านค้า, และลานพักผ่อน บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือเย็นที่อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
7. อัยเยอร์เวง จุดชมทะเลหมอกยอดนิยมแห่งเบตง สามารถมองเห็นวิวทิวเขาและทะเลหมอกปกคลุมหุบเขาในยามเช้า มีสะพานแขวนลอยฟ้า (Skywalk) ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวแบบ 360º โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกหนาแน่นและอากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายภาพสุดประทับใจจากจุดชมวิวที่ยื่นออกมาจากหน้าผา พร้อมชมดวงอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางม่านหมอกเบื้องหน้า ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามตราตรึงและหาชมได้ยาก
8. ตัวเมืองเบตง เมืองชายแดนใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เต็มไปด้วยศิลปะบนกำแพง (Street Art), ตู้ไปรษณีย์สีแดงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย, และหอนาฬิกาสไตล์ดั้งเดิม (Classic) ที่เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม เมืองนี้มีความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีน-มลายูได้อย่างกลมกลืน เดินเที่ยวในตัวเมืองจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายวัฒนธรรมอันหลากหลาย ร้านอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อ เช่น ไก่เบตง, บะหมี่เบตง, และติ่มซำร้อนๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ไม่ควรพลาด
9. อุโมงค์ปิยะมิตร อุโมงค์ประวัติศาสตร์ที่เคยใช้เป็นฐานหลบภัยในสมัยสงครามกองกำลังคอมมิวนิสต์ มีทางเดินยาวใต้ดินหลายร้อยเมตร พร้อมการจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวในอดีต ภายในยังมีจุดให้เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของนักรบในป่า อุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ที่ยังคงรักษาไว้อย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจภายในอุโมงค์และฟังคำบรรยายเพื่อเข้าใจความเป็นมาของพื้นที่ได้อย่างลึกซึ้ง
10. รุกขมรดกของแผ่นดิน ต้นไม้ยักษ์ในพื้นที่ป่าใกล้เบตง อายุกว่า 200 ปี สูงตระหง่านให้ร่มเงาและความสงบ เป็นที่นิยมในการมาถ่ายภาพและศึกษาธรรมชาติ เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายรักธรรมชาติและผจญภัยเบาๆ พื้นที่รอบต้นไม้ยังเป็นแหล่งศึกษาระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ มีทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้สัมผัสกับความหลากหลายทางชีวภาพอย่างใกล้ชิด ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ให้ทั้งความรู้และความประทับใจ
11. ป้ายโอเคเบตง หมุดหลัก (Landmark) สำคัญของเมืองเบตง ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มองเห็นวิวเมืองด้านล่างได้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงดวงอาทิตย์ตกดิน นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพและเดินเล่นบริเวณนี้ บริเวณรอบๆ ป้ายมีจุดชมวิวพร้อมศาลานั่งพัก เหมาะแก่การมาชมบรรยากาศเมืองเบตงจากมุมสูง และในช่วงเย็นที่แสงดวงอาทิตย์สะท้อนยอดเขา ถือเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดสำหรับการถ่ายรูปและดื่มด่ำกับธรรมชาติ
12. วัดพุทธาธิวาส วัดพระอารามหลวงที่สำคัญของจังหวัดยะลา มีพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างศิลปะไทย, อินเดีย, และจีน เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของภาคใต้ ภายในวัดยังมีพระอุโบสถ และพื้นที่สำหรับปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ เหมาะแก่การเข้ามาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล หรือเยี่ยมชมความงามของงานศิลปะเชิงพุทธศาสนา
13. อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ความยาวกว่า 1.3 กิโลเมตร เชื่อมเมืองเบตงกับถนนทางหลวงหลัก เป็นโครงสร้างที่โดดเด่นและกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหลักของเบตง ภายในอุโมงค์มีระบบไฟส่องสว่างและการระบายอากาศที่ทันสมัย นักท่องเที่ยวมักแวะถ่ายภาพบริเวณทางเข้าอุโมงค์ ซึ่งมีการออกแบบให้ดูทันสมัยและมีชื่ออุโมงค์เด่นชัด สะท้อนถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองชายแดนที่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัว
14. ใต้สุดแดนสยาม จุดใต้สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ด่านเบตงติดกับประเทศมาเลเซีย มีป้ายหมุดหลักและสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก บริเวณนี้ยังมีอาคารด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางข้ามแดนไปยังรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย นักท่องเที่ยวยังนิยมเดินเล่นสำรวจร้านค้าท้องถิ่น และเก็บภาพกับป้าย “ใต้สุดแดนสยาม” เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าได้มายืน ณ จุดใต้สุดของแผ่นดินไทย
15. น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 น้ำตกสวยในเขตป่าอุทยานแห่งชาติบางลาง มีหลายชั้นให้ปีนป่ายและเล่นน้ำ เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบและสดชื่น น้ำตกไหลลดหลั่นลงมาตามโขดหินท่ามกลางผืนป่าอันร่มรื่น มีทางเดินศึกษาธรรมชาติและจุดพักผ่อนตลอดเส้นทาง นักท่องเที่ยวสามารถนำอาหารมารับประทาน หรือลงเล่นน้ำในแอ่งที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมของครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่รักการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
16. ชุมชนท่องเที่ยวบางปู ชุมชนชายฝั่งที่ขึ้นชื่อด้านวิถีชีวิตประมงและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมทำอาหารทะเลสด, เรียนรู้การทำกะปิ, หรือแวะพัก Homestay ที่มีบรรยากาศอบอุ่น ภายในชุมชนยังมีการจัดกิจกรรมล่องเรือชมป่าชายเลน, สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน, และสามารถเลือกซื้อของฝากจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติอีกด้วย
17. ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ศาลเจ้าเก่าแก่ใจกลางเมืองปัตตานี มีสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่งดงาม ภายในประดิษฐานเจ้าแม่ทับทิม (ลิ้มกอเหนี่ยว) เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ และเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมสำคัญในช่วงเทศกาลกินเจ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นจุดรวมพลังศรัทธาและวัฒนธรรมจีนที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้อย่างเข้มแข็ง มีการประดับโคมไฟแดงและลวดลายมังกรอันวิจิตรที่สะท้อนถึงความศักดิ์สิทธิ์และความรุ่งเรือง
18. มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมแบบตะวันออกกลางผสมผสานกับไทย ตั้งตระหง่านกลางเมือง เป็นจุดศูนย์กลางของชุมชนชาวมุสลิมในจังหวัด และเป็นที่เปิดให้เยี่ยมชมและเรียนรู้วัฒนธรรมอิสลาม บริเวณโดยรอบเงียบสงบ เหมาะแก่การมาศึกษาศาสนาและถ่ายภาพความงามของสถาปัตยกรรม ทั้งยังมีห้องละหมาดและลานกิจกรรมที่ใช้ในการรวมตัวของชาวบ้านในงานประเพณีต่างๆ
19. มัสยิดกรือเซะ โบราณสถานทางศาสนาอิสลามที่มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี มีโครงสร้างที่ยังคงสภาพเดิมบางส่วน โดยเฉพาะโดมอิฐเก่าอันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งของชาวมลายูมุสลิมในภาคใต้ สถานที่แห่งนี้ยังเป็นจุดเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของชุมชนมุสลิมในอดีต นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและถ่ายภาพอาคารเก่าแก่
20. วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม วัดสำคัญในจังหวัดปัตตานี โด่งดังจาก “หลวงปู่ทวด” พระเกจิชื่อดังของภาคใต้ นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธานิยมมากราบไหว้ขอพร และเช่าพระเครื่องเพื่อความเป็นสิริมงคล บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบและร่มรื่น เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิหรือปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงชีวประวัติของหลวงปู่ทวด และวัตถุมงคลหายากที่ผู้ศรัทธาต่างแวะเวียนมากราบนมัสการอย่างต่อเนื่อง
21. เขาคอหงส์ จุดชมวิวชื่อดังของหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สามารถมองเห็นตัวเมืองหาดใหญ่ได้ชัดเจน โดยเฉพาะยามค่ำที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ บนยอดเขามีพระพุทธรูปองค์ใหญ่และลานชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม และมีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
22. หาดบ่ออิฐ หาดสงบในเขตอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา มีแนวหาดที่ทอดยาวและมีโขดหินสลับทราย เหมาะกับการมาปิกนิก, นั่งเล่นริมทะเล, หรือชมดวงอาทิตย์ตกในบรรยากาศเงียบสงบ ทะเลที่นี่ค่อนข้างใสและเงียบ จึงเป็นจุดที่คนในพื้นที่มักมาใช้เวลาในวันหยุดอย่างสบายใจ
23. หาดเก้าเส้ง อีกหนึ่งชายหาดยอดนิยมของชาวสงขลาและนักท่องเที่ยว บริเวณชายหาดมีศาลาพักผ่อน, สนามเด็กเล่น, และร้านอาหารริมทะเล เหมาะสำหรับการพักผ่อนของครอบครัวและการถ่ายรูปวิวทะเล นอกจากนี้ยังมีจุดให้นั่งตกปลา และลานกิจกรรมสำหรับออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับชายหาดแห่งนี้
24. น้ำตก (จำลอง) Songkhla City สถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายในเขตเมืองสงขลา จำลองบรรยากาศน้ำตกกลางธรรมชาติ พร้อมสวนร่มรื่นและทางเดินชมวิว เป็นจุดพักผ่อนยอดนิยมของคนในท้องถิ่น มีพื้นที่ให้นั่งเล่น, ปั่นจักรยาน, และจัดกิจกรรมสันทนาการในช่วงวันหยุด เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
25. ชายหาดสมิหลา ประติมากรรมนางเงือก และหนู-แมว หลักหมุดสำคัญของจังหวัดสงขลา มีรูปปั้นนางเงือกสีทองอันเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง พร้อมประติมากรรมหนูกับแมวที่สะท้อนตำนานพื้นบ้านอันน่ารัก บริเวณชายหาดเหมาะแก่การเดินเล่น, ถ่ายรูป, และชมวิวทะเล ชายหาดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมประจำปีหลายงาน และมีร้านค้าของฝากท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย
26. อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และการทหาร ตั้งอยู่บนเขาริมทะเลสมิหลา เป็นที่ระลึกถึงพระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย ด้านบนสามารถมองเห็นวิวทะเลอ่าวไทยได้อย่างงดงาม บริเวณโดยรอบยังมีสวนหย่อมและจุดให้นั่งพักผ่อน รวมถึงเป็นสถานที่สำคัญในพิธีการทางทหารและงานรำลึกประจำปี
27. พญานาคพ่นน้ำ (ส่วนหัว, สะดือ, และหาง) ประติมากรรมพญานาคสำริดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ 3 จุดบริเวณชายหาดสงขลา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ตามความเชื่อของชาวใต้ เหมาะแก่การมาไหว้ขอพรและถ่ายรูป จุดพญานาคแต่ละแห่งเชื่อมโยงกันด้วยตำนานและงานศิลป์ที่สะท้อนความศรัทธาในวัฒนธรรมพื้นถิ่นได้อย่างงดงาม

28. ย่านเมืองเก่าสงขลา เต็มไปด้วยบ้านเรือนเก่าสไตล์ชิโน-ยูโรเปียน (Sino-European), อาคารสีพาสเทล (Pastel), และศิลปะบนกำแพง (Street Art) สะท้อนวัฒนธรรมไทย-จีน-มลายู ที่หลอมรวมกันได้อย่างกลมกลืน เหมาะกับการเดินเล่น, ถ่ายรูป, และสัมผัสกลิ่นอายเมืองเก่า นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟพื้นเมือง, พิพิธภัณฑ์ชุมชน, และกิจกรรมปฏิบัติ (Workshop) งานฝีมือให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิถีชีวิตท้องถิ่น
29. บ้านนครใน และศิลปะบนกำแพง อีกหนึ่งจุดเด่นในตัวเมืองสงขลา ที่มีการฟื้นฟูชุมชนด้วยศิลปะบนกำแพง ที่เล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตผู้คนในอดีตผ่านภาพวาดสีสันสดใส เป็นย่านสร้างสรรค์ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นอกจากศิลปะบนผนังแล้ว ยังมีร้านค้า, ร้านกาแฟ, และกิจกรรมชุมชนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง
30. สะพานติณสูลานนท์ สะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่กับเกาะยอ จังหวัดสงขลา เป็นสะพานที่มีทัศนียภาพสวยงาม โดยเฉพาะช่วงเย็นที่แสงอาทิตย์สะท้อนผืนน้ำ สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ยังเป็นจุดที่นิยมในการถ่ายภาพและจอดรถชมวิว แล้วยังสามารถมองเห็นวิถีชีวิตของชาวประมงในพื้นที่ได้จากสะพาน